กระทรวง อว. เดินหน้าสอบอาจารย์มหาวิทยาลัย ซื้อผลงานวิจัยต่อเนื่อง รายงานผลมาแล้ว 154 แห่ง พบความผิดปกติ จำนวน 52 ราย ใน 19 สถาบัน และน่าสงสัยอีก 160 ราย
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยหลังการประชุม กกอ.ครั้งที่ 3/2566 ซึ่งได้มีการพิจารณาความคืบหน้าในการทำผิดจริยธรรมการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักวิจัยในสถาบันอุดมศึกษาที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านั้นว่า
สถาบันอุดมศึกษาต่างให้ความร่วมมือในการรายงานผลการตรวจสอบมาเป็นอย่างดี ขณะนี้มี 154 แห่ง ได้รายงานผลการตรวจสอบมาแล้ว ซึ่งพบนักวิจัยที่ต้องทำการตรวจสอบความผิดปกติ จำนวน 52 ราย ใน 19 สถาบัน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทางสำนักงานปลัดกระทรวง อว. จะติดตามอย่างใกล้ชิดและให้สถาบันอุดมศึกษา รายงานความคืบหน้าเป็นระยะ ๆ
ปลัดกระทรวง อว.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางสำนักงานปลัดกระทรวง อว. ได้ทำการตรวจสอบคู่ขนานไปกับสถาบันอุดมศึกษา โดยได้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ที่มีข้อสังเกต ที่อาจจะนำไปสู่การผิดจริยธรรมการตีพิมพ์ผลงานวิจัย พบว่ามีนักวิจัยประมาณ 160 ราย ในหลาย ๆ สถาบัน ที่มีข้อสังเกตที่อาจจะนำไปสู่การผิดจริยธรรมการตีพิมพ์ผลงานวิจัย ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ผิดจากการซื้อผลงานวิจัยอย่างชัดเจน และ 2.กลุ่มที่ผลงานผิดปกติที่อาจไม่ได้มาจากการซื้อผลงานวิจัยโดยตรง แต่มาจากเครือข่ายงานวิจัย ทั้งที่นักวิจัยอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ได้
ดังนั้นจึงต้องมีกระบวนการดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจนในแต่ละกรณี โดย กกอ. ได้ให้ทางสำนักงานปลัดกระทรวง อว. ตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้ง แล้วจัดส่งข้อมูลให้สถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัดตรวจสอบ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสำนักงานปลัดกระทรวง อว. สถาบันอุดมศึกษาและนักวิจัย ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ด้าน ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และเลขานุการ กกอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เงื่อนไขที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว.ใช้ในการตรวจสอบคู่ขนานไปกับสถาบันอุดมศึกษาจะประกอบด้วย 4 ข้อหลัก คือ 1.มีจำนวนบทความในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสูงผิดปกติ 2.ผลงานตีพิมพ์อยู่ในหลายสาขาและไม่ตรงกับสาขาที่เชี่ยวชาญ 3.ผู้แต่งร่วมในผลงานตีพิมพ์มาจากหลายสาขาและหลายประเทศ 4.ผู้แต่งร่วมในผลงานตีพิมพ์มีความผิดปกติ เช่นตีพิมพ์ในหลายสาขาวิชา เป็นต้น
โดยข้อมูล ข้อสังเกตดังกล่าวของสำนักงานปลัด อว. เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ที่ไม่ได้หมายถึงว่านักวิจัยดังกล่าว กระทำผิดจริยธรรมการตีพิมพ์ จะให้สถาบันอุดมศึกษาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เพิ่มโอกาสศึกษาเด็กยากจน 2.5 ล้านคน นำสู่จุดเปลี่ยนประเทศรายสูงใน 20 ปี